วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ไดอารี่สีดำ32


พอรุ่งขึ้นอีกวันเราก็นำเอกสารมาจัดแจงเรื่องรถกันจนเสร็จ
และให้คุณกิตติพงษ์พาไปดูคอนโด
เราเปิดประตูเข้าไปมีฝุ่นเขรอะเต็มไปหมดคงไม่ได้ใช้งานมานานจริงๆ
เราเดินสำรวจดู ห้องขนาดนี้
ก็พอเหมาะสำหรับชีวิตคนโสด
หรือกับคู่รักใช้เป็นห้องหอเล็กๆก็คงมีความสุขไม่น้อย
ข้าวของทุกอย่างในห้องก็สภาพปกติดี
ไม่ว่าเครื่องสุขภัณฑ์ต่างๆยังสภาพดี
เราแค่มาล้างทำความสะอาด และซื้อข้าวของเครื่องใช้
เข้ามาตกแต่งอีกหน่อยก็เกินพอแล้วสำหรับเรา

เราตัดสินใจซื้อคอนโดนี้จากคุณกิตติพงษ์
ด้วยเงินสดราคาสองแสนบาท
จากนั้นเราไปดูโรงเรียนที่กำลังเตรียมตัวตกแต่งทาสีใหม่และมีการขนโต๊ะเก้าอี้
กระดานและเครื่องคอมพิวเตอร์นับสิบเครืองเข้าไปจัดวาง
ชั้นบนสุดเราทำเป็นห้องสำหรับสอนคอมพิวเตอร์
ชั้นสองใช้ทำเป็นห้องติวกวดวิชาทั่วไป
ชั้นล่าง ถูกนำโต๊ะมาตั้งตกแต่งเป็นเคาน์เตอร์
เพื่อให้พนักงานคอยรับโทรศัพท์ติดต่องานเป็นที่สมัครเรียนต่างๆมีเก้าอี้สำหรับนั่งพักรอ
และยังกั้นห้องกระจกเล็กๆเป็นที่สำหรับเรานั่งพักเตรียมตัวสำหรับเวลามาสอน
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อเปิดสอนเต็มรูปแบบมีผู้สนใจมาเรียนคอมพิวเตอร์มากที่สุดจนเต็มห้อง
และเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่พอกับนักเรียน
เราจึงปรึกษากับคุณกิตติพงษ์ว่าควรแบ่งเป็นรอบๆไป
คือรอบเช้า รอบบ่าย รอบเย็น รอบค่ำ
ซึ่งแก้ปัญหาได้เป็นอย่างมาก
และกลับเป็นเรื่องที่ดีที่คนมีเวลาว่างช่วงไหนก็มาเรียนได้ในช่วงนั้น
กิจการนี้เดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว
และคุณกิตติพงษ์ได้จ้างครูสอนคนอื่นสาขาอื่นเข้ามาเพิ่ม
ทำให้กลายเป็นโรงเรียนกวดวิชาที่มีหลากหลายศาสตร์มากขึ้น

เมื่อทุกอย่างลงตัวเราสามารถบริหารจัดการเวลาของตัวเองได้
เราก็ได้ย้ายของเข้าไปอยู่คอนโด ซึ่งเป็นบ้านหลังแรกในชีวิตเรา
เราดีใจมากที่มีวันนี้ได้ และต้องขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทำให้เรามาถึงวันนี้

เราโทรนัดกับริญหวังแจ้งข่าวดีต่างๆเหล่านี้ให้เธอทราบ
เราก็นัดกันสถานที่เดิม
เราออกจากบ้านไปรอริญเช่นเคยไม่ได้ขับรถไปแต่อย่างใด
ยังคงไปรถเมล์อยู่อย่างที่เคยเป็น

สักครู่ริญก็มาถึง
เราเข้าไปนั่งคุยกันตามประสาหนุ่มสาวคนรักที่ข้างในสวนลุม

มีข่าวดีอะไรจะบอกริญจ้ะทิว วริญญาถาม
ริญจ้ะไม่กี่วันมานี้ ทิวถูกบุญหล่นทับจนตั้งตัวไม่ทันเลย เราบอกกับริญ
ริญยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับถามว่าบุญอะไรหล่นทับจ้ะทิวคงไม่ใช่ถูกหวยนะ
 เธอถามด้วยความสงสัย
มันก็ประมาณนั้นแหละริญ แล้วเราก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟังด้วยความยินดี

ริญขอแสดงความยินดีด้วยนะทิว
ดูสิชีวิตของทิววิ่งนำหน้าริญไปจนห่างแล้ว เธอเปรย

ไม่หรอกริญ 
ทิวจะไม่นำหน้าหรือตามหลังริญ เราจะเดินกอดคอเกี่ยวก้อย ประสานมือไปด้วยกันจ้ะ
รู้ไหมทิวมีวันนี้ก็เพราะริญคนเดียว เราปรารภกับเธอ

ริญไม่เกี่ยวเลยทิว ทิวคนเดียวต่างหาก เธอตอบ

ริญเกี่ยวสิจ้ะ
ริญคิดดูนะ ถ้าไม่มีริญ ทิวคงไม่มีความกระตือรือร้นอยากได้ใคร่ดี
ถึงวันนี้ ทิวเองก็คงเป็นเด็กส่งของหน้าร้านอยู่เช่นเคย

ทิวทำทุกอย่างในวันนี้ก็เพื่อริญคนเดียว
เพื่อตัวเองด้วย เพื่อตัวทิวเองจะได้อยู่กับริญ
ทิวจึงมีความมุ่งมั่น

ริญทำให้ทิวมีค่า
ทุกครั้งที่ทิวอยู่กับริญ ทิวรู้สึกว่าตัวเองมีค่าขึ้นมา
มันเกิดแรงฮึดสู้แรงบันดาลใจขึ้นมา
สำหรับทิวแล้ว ริญมีค่าที่สุด
ริญมีค่าและงดงามยิ่งกว่าเครื่องประดับหรืออัญมณีชิ้นใดทั้งปวงในโลกนี้
เมื่อได้อยู่กับริญทิวไม่ต้องแสวงหาอัญมณีชิ้นใดมาประดับร่างกายหรือบารมีเลย
ริญมีค่าและงดงามกว่าพวกมันทั้งหลาย สำหรับความรู้สึกของทิว
ถ้าไม่มีริญแล้วทิวเองก็ไร้ค่า
ริญทำให้ทิวสูงค่าขึ้นมา
ริญทำให้ทิวเห็นค่าและความสามารถของตัวเอง

โอ๊ย !! มดขึ้นปากแล้ว คนเก่ง 
มานี่..มาเดี๋ยวริญเช็ดน้ำตาลออกจากปากให้ เธอพูดตัดบทขึ้นมา
แต่ทิวพูดจากใจจริงนะริญ เราย้ำ
จ้าๆทิว ริญรับทราบนะคะ 
อย่างนี้ริญก็ต้องวางตัวลำบากแย่เลยสิจ้ะ เธอบอก
ทำไมจ้ะริญ เราถาม
ก็ริญมีค่ามากมายขนาดนั้น คงหม่นคงหมองไม่ได้ล่ะสิจ้ะทิว
 เธอพูดพร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

ริญจ้ะ ..
ทิวอยากเข้าไปแนะนำตัวกับคุณย่าของริญบ้าง เราเสนอความต้องการ
ริญเงียบ ซักพัก ก่อนเอ่ยขึ้นว่า
คุณย่าเป็นคนเจ้าระเบียบ เข้มงวด ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร
แม้แต่ริญเอง อยู่กับคุณย่ามาร่วมห้าปียังไม่สนิทกับคุณย่าเลย
ยังพอคุยได้กับคุณปู่ แต่ตอนนี้คุณปู่เสียแล้ว
ริญเลยต้องคุยเล่นอยู่กับหลานสาวซึ่งเป็นลูกของน้องสาวคุณพ่อหรือก็คืออาของริญ
เธอมีลูกสาวกำลังเรียนอยู่ ป.6 ชื่อ ชื่อน้องหญิง 
ริญสนิทกับเด็กคนนี้แหละมากที่สุดทำให้ริญใช้ชีวิตข้ามคืนข้ามวันมาได้
 และก็พี่ขิง ที่เป็นแม่บ้านที่ทิวฝากจดหมายไว้กับเธอล่ะจ้ะ ริญบอก

แล้วทิวจะไม่มีทางได้เข้าไปรู้จักกับคุณย่าหรือจ้ะริญ เราถามเธอ
ถ้าทิวแน่ใจก็เอาสิจ้ะ  เดี๋ยวริญจะพาเข้าไปตอนเย็นนี้เลย

แต่ที่ริญกลัวที่สุดคือ พี่เอกอมรจ้ะทิว
เขาชอบมาบ้านคุณย่าช่วงเวลานี้
ถ้าเจอกันทิวต้องระวังนะจ้ะ อย่าไปมีเรื่องกับเขา 
ริญกลัวใจผู้ชายคนนี้มาก  
ริญพูดแสดงความห่วงใย

ตกลงจ้าริญงั้นเราไปกันเลย

ว่าแล้วเราสองคนก็เดินกลับออกจากสวนลุมเข้ามายังซอยหลังสวน
เราเดินคุยกันมาตลอดทาง ริญพยายามพูดถึงครอบครัวคุณย่าเธอให้เราฟัง
ครอบครัวคุณย่าอยู่กันแบบคนในเมืองจ้ะทิว ไม่ค่อยสุงสิงกันมากนัก
ส่วนอากับสามีเขาก็อาศัยอยู่เรือนเล็กอีกหลัง เขาก็อยู่ของเขาเช้าก็ไปทำงานเย็นก็กลับ
ส่วนเรือนเล็กอีกหลัง พี่ขิงก็จะอยู่จ้ะ
ส่วนริญอยู่บนเรือนใหญ่กับคุณย่า อยู่ห้องเก่าของคุณพ่อที่คุณพ่อเคยอยู่
นอกนั้นก็มีญาติพี่น้องคนอื่นๆนานๆจะแวะเข้ามาที
แต่ที่มาบ่อยที่สุดคือพี่เอกอมรนี่แหล่ะจ้าทิว

พอเราเดินคุยกันมาใกล้ถึงหน้าบ้านริญ
ก็มีรถขับเข้ามาจอดแอบชิดข้างทางข้างกับพวกเราสองคน

ไม่นานมีผู้ชายเปิดประตูรถ เดินลงมา
อยู่นี่เองริญ พี่อุตสาห์ไปรอรับที่คณะก็ไม่เจอ 
ที่แท้มาจู๋จี๋กันอยู่นี่เอง ชายคนนั้นกล่าว

ไอ้หมอนี่เป็นใครกันล่ะริญ 
ดูท่าทางสนิทสนมถึงขั้นจูงมือเกี่ยวก้อย
นี่ทิวจ้ะเป็นแฟนของริญเอง ริญแนะนำเรา
ทิวจ้ะนี่พี่เอกอมร ยังไม่ทันได้ทักกัน
นายเอกอมรก็ย้อนถามริญว่า
เมื่อกี้เธอว่าไอ้หมอนี่เป็นแฟนเธอหรอ
ใช่จ้ะเรารักกันมาตั้งแต่เรียน ม.อยู่ขอนแก่นโน้น
และก็เป็นรักแรกรักเดียวของริญ ริญจะแต่งงานกับทิวเขาเมื่อริญเรียนจบ
ริญย้ำความมั่นใจเหมือนจะแสดงให้ นายเอกอมรรู้ว่าเธอมีเจ้าของหัวใจแล้ว

ไม่ได้นะริญ พี่รักริญ ริญก็รู้ นายเอกอมรพูด
แต่ริญไม่ได้รักพี่เอกอมร พี่ก็รู้เช่นกัน ริญตอบโต้
นี่เธอกล้าพูดกับพี่อย่างนี้เลยหรือริญ นายเอกอมรพูดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
พร้อมกับเดินตรงเข้ามาหาเราทั้งคู่
วันนี้พี่จะไปพูดเรื่องของเรากับคุณย่า ไปกับพี่เลยริญ 
ไม่ทันขาดคำนายเอกอมรก็เดินตรงปรี่เข้ามาจะจับแขนของริญ
ริญหนีมาหลบข้างหลังเรา
แต่นายเอกอมรก็ไม่ลดละเอื้อมมือจะคว้าแขนของริญให้ได้

เราชกไปที่หน้านายเอกอมรอย่างจังจนนายเอกอมรเซถลาออกไป
นี่มึงกล้าต่อยกูหรือ มึงเป็นใครวะ 
นายเอกอมรพูดออกมาด้วยความโมโห
เราก็เดินตรงเข้าไปหานายเอกมรและกำลังจะต่อยซ้ำเข้าไปอีก
ริญก็ดึงแขนไว้
พอเถอะจ้ะทิว แค่นี้ก็เรื่องใหญ่แล้ว ริญพูดด้วยความห่วงใยและน้ำเสียงที่กังวล
เรายอมถอยออกมาตามริญ และบอกนายเอกอมรว่า
อย่าได้คิดมาแตะต้องริญแม้เพียงปลายก้อย

นายเอกอมรเดินกลับไปที่รถ พร้อมประกาศเสียงดังว่า
จำไว้เลยมึง จำไว้ริญ พวกเธอจะไม่มีทางสมหวัง คอยดู
แล้วนายเอกอมรก็ขับรถบึ่งออกไป
เมื่อนายเอกอมรจากไป ริญก็เดินเข้ามาหาเรา
เป็นอะไรไหมทิว ริญถามด้วยความห่วงใย
ทิวไม่เป็นอะไร เราตอบ
ต้องขอโทษนะริญ 
ทิวห้ามใจไม่อยู่ที่เห็นคนจะเข้ามากระชากลากถูริญ
เธอเข้ามาจับแขนเรา

วันนี้คงเสียบรรยากาศแล้วทิวเอาไว้วันหลัง 
ริญค่อยพาทิวไปพบคุณย่านะจ้ะวันนี้กลับก่อนเถอะจ้า
ก่อนที่พี่เอกอมรจะกลับมาอีก ส่วนริญจะเข้าไปแจ้งเรื่องนี้ให้คุณย่ารู้ไว้ก่อน
เพื่อหาทางรับมือพี่เอกอมร




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น