วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ไดอารี่สีดำ24



ที่นี่เป็นน่านน้ำสากล ไต๋ประกาศให้ทุกคนรู้
เมื่อเราวิ่งเข้าน่านน้ำสากลและพ้นเขตน่านน้ำสากลก็จะเป็นฝั่งน้ำของเพื่อนบ้าน
ด้านหลังก็คือฝั่งไทยเราเรือเร่งเครื่องมุ่งหน้าด้วยความเร็วเต็มที่
ไม่นานเราก็มองเห็นทุ่นลอยมีธงมีสีแต้มเรียงรายอยู่เป็นจุดกลางทะเลกว้าง

มีน่านน้ำสากลกั้นอยู่ตรงกลาง
ทุกคนจำไว้ว่าน่านน้ำสากลเรายังปลอดภัยอยู่
แต่ทันทีที่เราเข้าน่านน้ำต่างชาติเราอาจถูกจับทุกเวลา
ดังนั้นจึงต้องแบ่งหน้าที่กันทำ
ให้สองคนขึ้นไปบนหลังคาเก๋งเรือเพื่อสังเกตการณ์เรือตรวจการจากทหารเรือต่างชาติ
เราจะไม่ใช้เวลามาก
ทันทีที่เราเข้าน่านน้ำเขาเราจะปล่อยอวนทันที
ให้ขึงอวนเตรียมไว้
และถ้าเห็นเรือลาดตระเวนให้ไอ้สองคนนั้นร้องบอกทันที
ถ้าเราเริ่มเห็นเสากระโดงชัดเจนนั่นคือระยะอันตราย
เพราะเรือลาดตระเวนมันแล่นเร็วกว่าเรือเรา
ให้เราตัดสินใจตัดอวนทิ้งทันทีแล้วให้หันหัวเรือกลับ
ทางน่านน้ำสากลและเข้าไทยให้ทัน  เร่งเต็มเครื่อง
เข้าใจไหม ไต๋สั่งงานและร้องถาม
เมื่อเราวางแผนกันแล้วทุกคนถูกจัดเข้าประจำหน้าที่ใหม่
คนปล่อยอวน คนคลุมทิศทางลม
คนที่ทำหน้าที่ลงเรือโล้เพื่อออกตีน้ำไล่ปลาเข้าอวน หรือเราเรียกว่าคนตีปลา
และงานนี้ไต๋ยังสั่งให้อีก 4 คนถือมีดติดตัวไว้ 
เมื่อได้รับสัญญานจากข้างบนให้ตัดอวนทิ้งทันทีตามแผน

เรือโล้มีอยู่สองลำ ถูกปล่อยออกจากเรือแม่โดยมีเชือกผูกที่เรือโล้ ด้านหนึ่ง
ปลายอีกด้านหนึ่งผูกติดกับเรือแม่
แต่ละลำมีสองคนประจำเรือ คนหนึ่งคอยถือไม้ไผ่เพื่อตีน้ำไล่ปลาให้เข้าอวน
ส่วนอีกคนคอยพยุงประคองเรือไม่ให้จม
เรือตีปลาลำหนึ่งถูกปล่อยออกฝั่งซ้าย
มีสองคนถือไม้ไผ่ลงเรือไป
ส่วนอีกลำถูกปล่อยออกฝั่งขวา
พี่เอกยืนถือไม้ไผ่สองลำ
พร้อมร้องเรียกเรา
ทิวโว้ยลงเรือกับพี่
เราก้าวลงเรือโล้กับพี่เอก 
ทันทีที่เรือเคลื่อนตัวตามแรงคลื่นเราทั้งสองใช้มือยกลำไม้ไผ่ตีฟาดลงกับน้ำแรงๆ
จนเรือลอยห่างออกจากเรือแม่กว่า200 เมตร เราตีปลาไปตามแนววางอวนด้านหน้าอวน
เมื่อจรดขอบอวนก็ส่งสัญญาณให้เรือแม่ด้วยการส่องไฟฉาย
ด้านบนดึงอวนลากกลับเข้าเรือเพื่อกู้อวน
ขณะดึงอวนกลับพวกเราก็ยังไล่ตีปลาประคองไปเรื่อยๆจนกลับเข้ามาใกล้เรือ
และบนเรือยกอวนขึ้น
เราได้ปลามากจริงๆ
ทุกคนดีใจ ไต๋สั่งย้ายจุดไปอีกหน่อย
ปล่อยอวนอีก
เราทำอยู่อย่างนี้สีห้ารอบจนได้ปลาเต็มเรือ
และปล่อยอวนอีกครั้งกะจะเป็นครั้งสุดท้าย

ขณะที่เรากำลังออกตีปลาหน้าอวนอยู่นั้น ก็เห็นแสงไฟจากเรืออีกลำส่องจ้าเข้ามา
มันเป็นเรือตรวจการทะเลของทหารต่างชาติ
พี่เอกสั่งให้เราฉายไฟเป็นสัญญาณไปเรือแม่
ด้านบนเร่งดึงอวนกลับ
พี่เอกสั่งเราให้สาวเชือกที่ผูกอยู่กับเรือเพื่อเร่งกลับเข้าเรือแม่
ด้านบนส่องไฟฉายกลับลงมา
นั่นมันสัญญานให้กลับด่วนและให้ตัดอวน
อวนถูกตัดทิ้งจากเรือเพื่อไม่ให้เรือหนัก
เรือกลับลำหันหัวตรงเข้าทางฝั่งไทยมุ่งสู่น่านน้ำสากลให้ทัน
ขณะที่พวกเราที่ทำหน้าที่อยู่ในเรือโล้ยังกลับไม่ถึงเรือทั้งสองลำ
เมื่อเรือแม่ลากเราอย่างแรงเรือของเรากับพี่เอกจึงจมน้ำ
พี่เอกสั่งให้เราม้วนตัวให้ใช้เชือกพันเอวเอาไว้จะได้ไม่หลุด
เราจับเชือกมานาบเอวและดึงม้วนมาพันตัวตามที่พี่เอกสั่งและมัดเชือกเอาไว้
ส่วนพี่เอกก็ทำเช่นเดียวกันช่วงเชือกที่ต่อจากเราออกไป
พี่เอกอยู่หน้าเราอยู่หลังเชือก
ขณะที่เรือโล้จมลงน้ำและดึงพวกราให้จมลงไปด้วยพี่เอกสั่งให้เราว่ายน้ำเข้ามาเกาะเชือกที่ด้านหน้าเราช่วยกันสาวเชือกกลับเข้าหาเรือ
ขณะที่คนบนเรือก็ดึงพวกเราลากเข้าไปด้วยเช่นกันพร้อมกับเรือแม่ที่กำลัง
เร่งเครื่องเต็มที่เพื่อหนีเข้าน่านน้ำสากลให้ทัน
ไม่นานพวกเราถูกดึงขึ้นเรือทั้งสองคน
และเรือโล้อีกลำก็เช่นกัน
เราเดินเครื่องเรากันเต็มที่หนีเข้าเขตน้ำสากลมาได้
ขณะที่เรือลาดตระเวนก็จอดหยุดอยู่ด้านนอก
เป็นอันว่าเรารอด
ยินดีด้วยไอ้ทิวแกยังรอด ไต๋พูดและเดินมาตบหลังไหล่เรา
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้พวกเองถูกตัดเชือกเพื่อทิ้งลงทะเลเป็นเหยื่อไอ้หลามไปแล้ว
เราไม่ลากเข้ามาหรอกวะทำให้เรือหนักและถูกจับ ไต๋บอกเรา
เราหันไปมองหน้าพี่เอก
พี่เอกพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า
ใช่แล้วทิว
คนที่ลงเรือโล้ทุกคนต้องรู้ชะตาตัวเองตรงนี้
ถ้าดึงได้เขาจะดึงแต่ดึงไม่ทันเขาก็จะตัดเชือกทิ้งเราเป็นเหยื่อไอ้หลามมันจริงๆ
เรือเราก็ทำอย่างนี้มาหลายครั้ง พี่เอกบอก
แต่ต่อไปนี้จะไม่มีเหตุการณ์อย่างนั้นอีกแล้วฉันรับรอง
 ไต๋พูดแทรกและยืนยันด้วยคำพูดที่หนักแน่น
เราจะไม่ทิ้งกันอีกต่อไป
บนเรือมันเครียดมามากพอแล้ว
ต่อไปเราจะอยู่กันแบบพี่น้อง
ไต๋พูดสำทับอย่างหนักแน่น
เมื่อเข้าเขตไทย
ไต๋สั่งทำอาหารและมุ่งหน้าเข้าฝั่งทันที
ทุกคนเริ่มผ่อนคลายรวมทั้งเราด้วย
เมื่อเรือมุ่งหน้าเข้าฝั่งเสียงครกเสียงสากก็เริ่มดังขึ้น
ว่าแล้วเราก็ลุกไปเข้าครัวกับพี่หวิลต่อไป



ลักษณะของเรือโล้ เป็นเรือเหล็กท้องแบนที่พอมีเนื้อที่นั่งได้สักสองคนเท่านั้น
และเราจะผูกเชือกด้านหนึ่งที่เรือโล้ด้านหนึ่งผูกที่เรือแม่


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น