วันเสาร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555

ไดอารี่สีดำ14


ทุกเย็นหลังเลิกงาน
เราก็ยังคงเดินไปที่ริมบึงสีฐาน
อยู่เป็นประจำทุกวันตามปกติไม่เคยขาด
และก็เช่นเคย
เราก็จะมองเห็นร่างของหญิงสาวมานั่งอยู่ก่อนหน้าแล้วทุกวันเช่นเคย
เพียงแต่ไม่ใช่ริญเท่านั้น
แต่เป็นแพรวนักศึกษาต่างถิ่นที่มาเรียนอยู่ที่นี่
เราพยายามจะเดินเลี่ยงหลบ
ไม่เดินเข้าไปบริเวณนั้น
ที่เธอนั่งอยู่
แต่หลายครั้งเธอก็แอบเห็นเรา
และเรียกเราเข้าไปนั่งด้วยอยู่หลายครั้ง
แพรวเธอก็ดูหน้าตาผิวพรรณดี
นิสัยใจคอก็เป็นดีคนหนึ่ง

แต่เธอไม่อ่อนหวานเหมือนริญ
ริญเธออ่อนหวานยิ้มง่ายเป็นธรรมชาติไม่เสแสร้ง
พูดตรงไม่อ้อมค้อมจิตใจงาม
ชั่งเจรจา
ผิวพรรณละเอียดอ่อนเนียนขาวเป็นธรรมชาติที่สุด
ทุกอย่างที่เธอมี มันไม่ได้ปรุงแต่ง
แถมน้ำเสียงของเธอ ใสกังวาน ยิ่งกว่าเสียงระฆัง บุคลิกอ่อนหวาน อ่อนโยน เรียบง่าย
ของเธอ ไม่มีใครเหมือน
และเธอก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่เปิดประตูหัวใจของเราเข้ามาได้ 
ต่างกับเรา
ถ้าไม่สนิทหรือรู้จักมักคุ้น
เราจะไม่คุยด้วยหรือถามคำก็ตอบคำ
คนที่เราไม่อยากรู้จัก
จะไม่มีทางได้รู้จักเรา
เราไม่ใช่คนเก็บตัว
แต่เป็นคนที่ค่อนข้างเลือกคนที่จะคบมากกว่า
แต่ถ้าตกลงได้คบหาแล้ว
ผู้ชายคนนี้ก็มีแต่ความจริงใจ
มั่นคง
ภายในความเงียบขรึมของเรา
มันเต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงใจ

นับจากวันที่ริญจากเราไป
ถึงวันนี้ก็ใกล้ครบเดือนแล้ว
ริญยังไม่ได้ติดต่อกลับมาเลย
ขณะที่เราเฝ้ารอ วันแล้ววันเล่า

วันนี้กลับจากบึงสีฐาน มอดินแดง
ถึงหน้าร้านเกือบสองทุ่ม
เดินผ่านหน้าร้านจะแวะไปโกดัง
เราก็สังเกตว่ามีเสียงโทรศัพท์ในร้านดังอยู่
เราเงี่ยหูฟังจนแน่ใจ
จึงใช้กุญแจไขเปิดร้านเข้าไปเพื่อจะไปรับสาย
พอเราเปิดประตูร้านลอดตัวเข้าไปข้างในได้
โทรศัพท์ก็เงียบเสียงเสียแล้ว คงดังมานานแล้ว เราคิด
เราจึงตัดสินใจนั่งรออีกซักครู่เผื่อโทรมาใหม่
เรานั่งรอไม่ถึงสามนาที
โทรศัพท์ก็ดังขึ้นจริงๆ
เรารีบยกหูรับสาย
สวัสดีครับบริษัทไทยสงวนครับ
ขอสั่งนำอัดลมหน่อยค้าเวลานี้ด่วนเลย เสียงหญิงสาวในสายพูดขึ้นมา
แต่เราปิดร้านแล้วนะครับ เอาไว้พรุ่งนี้ผมจะไปส่งให้  ทิ้งที่อยู่ไว้ก่อนนะครับ
ไปส่งที่ริมบึงสีฐานนะจ้ะ
ริญ..เราอุทานออกมาด้วยความดีใจสุดขีด เพราะจับน้ำเสียงได้
ริญสบายดีไหม เราถามเธอด้วยความรักและเป็นห่วง

สวัสดีจ้าทิว
ทิวไปไหนมา
ริญโทรมาตั้งแต่ 5 โมงเย็น ก็ไม่มีคนรับสาย
นี่ก็แอบย่ามาโทรด้วยนะจ้ะ
ทิวขอโทษนะริญ
ทิวเพิ่งจะกลับมาจากบึงสีฐาน เราบอกเธอ
เสียงริญเงียบไป
ทิวไปบ่อยไหมจ้ะ เธอถาม
ทิวไปทุกวันเลย เราตอบเธอ
ทุกอย่างยังเหมือนเดิมไหมทิว เธอถาม
ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ขาดเพียงริญคนเดียวเท่านั้น
สนคู่นั้นก็ยังยืนอยู่คู่กันที่ริมบึงเหมือนเดิม
ทิวไปอยู่ที่นั้นจนมืดทุกวัน
ริญคิดถึงทิวมาก
ริญพูด
แต่น้ำเสียงเธอเริ่มสั่นเครือเหมือนกำลังจะร้องไห้
ทิวจ้ะ ริญเหงามาก
ที่นี่ไม่เหมือนบ้านเรา
นอกจากมหาลัยกับบ้านแล้วริญไม่ได้ไปไหนเลย
จะโทรศัพท์ทีก็ต้องขออนุญาตคุณย่า
ริญคิดถึงบ้าน
ริญคิดถึงทิว
ริญคิดถึงพ่อแม่
คิดถึงบึงสีฐาน
ริญอยากกลับบ้าน ทิว เธอพูดไปร่ำไห้สะอื้นไป
เราเองก็ไม่ต่างจากเธอ
ที่ทั้งดีใจ ทั้งทุกข์ใจ
ยิ่งได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของเธอ
เราเองก็พลอยน้ำตาซึมไปกับเธอด้วย
ริญอยากกลับบ้านทิว ริญอยากกลับบ้าน เธอพูดย้ำหลายครั้ง
แต่ริญต้องอดทนและเรียนต่อให้จบนะ เราบอกเธอ
ริญไม่อยากเรียนแล้วทิว เธอบอก
เราเริ่มใจไม่ดี

ไม่นะริญ ริญต้องเรียนต่อ
เรายังติดต่อกันได้นี่
แม้จะน้อยครั้งลง แต่ใจเรายังอยู่ด้วยกัน เราปลอบเธอ

ริญไม่ต้องกลับ
ทิวจะไปหาริญเอง เราบอกเธอ
เธอเงียบไปซักครู่
ยังไงนะทิว เธอพูดถามขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนขึ้น
ทิวตัดสินใจแล้วริญว่าทิวจะลาออกจากงานที่ขอนแก่นนี่เสีย
และจะนั่งรถไฟเข้ากรุงเทพ ไปหางานทำที่กรุงเทพ ไปอยู่ใกล้ๆริญ 
เราพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
ทำไมล่ะทิว ทิวออกไปทิวก็ต้องไปนับหนึ่งใหม่นะจ้ะ เธอให้ข้อคิด
นั่นแหละริญที่ทิวต้องการ
ทิวต้องการนับหนึ่งสองสามสี่ห้าไปเรื่อย
ไม่ใช่หยุดเป็นศูนย์อยู่อย่างทุกวันนี้
ริญคิดดูนะ ถ้าทิวยังอยู่ที่นี่ก็คงเป็นได้แค่เด็กส่งของเฝ้าร้านอยู่วันยังค่ำ
ขณะที่อายุเรายังน้อยอยู่
ทิวอยากลองไปเสี่ยงโชควัดชะตาตัวเองดูบ้าง
เผื่อบางทีโชคเข้าข้างเรา
อาจจะทำให้เราได้ยืนเคียงข้างกันอย่างไม่สะท้านอายก็ได้นะริญ เราอ้างเหตุผลกับเธอ

แต่ริญไม่เคยรังเกียจทิวเลยนะ เธอย้ำ
ทิวรู้ทิวเข้าใจ แต่คนเราต้องเดินไปข้างหน้า
ทิวจะไม่ยอมให้อนาคตของตัวเองหยุดอยู่เพียงเท่านี้แน่ริญ
ทิวจะต้องยกตัวเองขึ้นไปหาริญให้ได้ เพื่อทิวจะได้มีโอกาสแต่งงานอยู่กินกับริญอย่างสมฐานะ
เราย้ำเหตุผลให้เธอฟัง
ริญเงียบเสียง
งั้นริญก็ขอให้ทิวประสบความสำเร็จนะจ้ะ ริญขอให้กำลังใจทิว ทำให้ได้นะทิว
ริญจะรอวันนั้น แล้วทิวจะมาเมื่อไหร่จ้ะ เธอถาม

สิ้นเดือนนี้ทิวจะไปลาเฮีย เขาออก จากนั้นจะแวะไปหาน้า
แล้วจะขึ้นรถไฟลงกรุงเทพคืนนั้นเลย
เมื่อไหร่ที่ทิวได้งานและทุกอย่างลงตัวแล้วทิวจะไปตามหาริญให้ถึงบ้าน
ตกลงไหมริญ เราให้คำมั่น
จ้าทิว ริญจะรอ 
แล้วเราก็คุยเรื่องหัวใจกันอีกจิปาถะ
สมควรแก่เวลาก็วางสายไป


                                                

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น