ผู้หญิงในวัยเด็กจะกำหนด สเป๊กซ์ของชายที่จะมาร่วมชีวิตไว้สูงมาก
คนที่จะมาเป็นคู่ฉันต้องมีเงินมีงานทำดีๆมีฐานะทางสังคม
มีชื่อเสียง มีการศึกษา มีชาติตระกูล และต้องขับรถยุโรปด้วย
พออายุย่างเข้า 20ปี สเป๊กซ์ผู้ชายของเธอก็เริ่มลดลง
ขอแค่มีงานทำ เป็นหลักแหล่ง ไม่ต้องร่ำรวยก็ได้
แค่ขับรถญี่ปุ่นมาด้วยก็พอ
เมื่ออายุเริ่มย่าง 30ปี
เธอก็จะกำหนดสเป๊กซ์ผู้ชายในดวงใจใหม่ว่า
ไม่ต้องมีรถยนต์ขับก็ได้ แค่มีมอเตอร์ไซค์ซักคนก็พอ
งานรับจ้างทั่วไป หรือขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ได้
พออายุย่างเข้า 40 ปี
ผู้ชายในดวงใจของเธอเวลานี้
ขอแค่ปั่นจักรยานมาให้เห็นหน้าได้แต่ละวันก็พอ
งานทำไม่ต้องมีก็ได้ มาช่วยกันทำมาหากินแถวบ้าน
เก็บผักหักฟืนอยู่กินกันไปก็พอแล้ว
พออายุย่าง 50 ปี
ผู้ชายในดวงใจเธอเวลานี้
ขอแค่มีเงินค่ารถเมล์มาหามาเยี่ยม ยามเจ็บป่วยไข้ คอยป้อนน้ำ หยูกยา ก็พอแล้ว
พออายุเริ่ม 60 ปี
เธอก็จะตั้งสเป๊กซ์ไว้แค่มีแขนมีขา
ผ้าขาวม้าผูกเอว ก็เดินมาเถอะ
มาคอยตะบันหมากินกันยามบั้นปลายชีวิต พอได้พูดได้คุยแก้เหงา
- อะไรทีทำให้คุณค่าของผู้หญิงลดฮวบลงตามตัวเลขอายุถึงเพียงนั้น
แต่การที่เราคาดหวังจากสิ่งที่มีในตัวเราไปเทียบกับทรัพย์ภายนอก
มันทำให้เราตีราคาตัวเองตามทรัพย์ภายนอก
พอตัวเราเองมีอายุสูงวัยขึ้นจึงคิดว่าตัวเอง หมดค่า หมดราคา
ยังไงก็ได้ ซึ่งเป็นการคิดที่ผิด
คุณค่าของคนไม่ได้เสื่อมลงตามอายุ
ความเป็นคนความดี ไม่ได้เสื่อมตามอายุ
ทรัพย์ที่มีอยู่ภายในคือจิตใจ
สูงค่ายิ่งกว่าทรัพย์ภายนอกทั้งปวง
จงเห็นคุณค่าของตัวเอง
เพราะทรัพย์ภายในมันเสื่อมสภาพไม่เป็น แม้ตัวเราจะตาย มันยังคงอยู่
และถูกกล่าวขวัญถึงไปชั่วลูกชั่วหลาน
คุณค่าวัดที่จิตใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น